“มายา” . . โหรสาวผู้รู้เห็นกระแสชีวิตที่ไหลวน ตามจังหวะการหมุนวนของดาวจรและโปรเกรสชั่นส์

ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งท่ามกลางหุบเขา มีโหรสาวคนหนึ่งชื่อ “มายา” อาศัยอยู่ เธอมีความหลงใหลอย่างลึกซึ้งในการทำความเข้าใจรูปแบบอันสลับซับซ้อนของเอกภพและสัมพันธภาพที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของมนุษย์

มายาใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาการโคจรของดาวเคราะห์ ถอดรหัสภูมิปัญญาโบราณที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน เธอหลงใหลในเครื่องมืออันทรงพลังที่เป็นเทคนิคพยากรณ์ชิ้นสำคัญในโหราศาสตร์:

• ดาวจร (Transits)
• โปรเกรสชั่นส์ (Progressions)

เธอตระหนักว่า เครื่องมือข้างต้น คือ “กุญแจ” สองดอกสำคัญที่ช่วยไขความลับการเดินทางของชีวิต

เมื่อมายาทำการศึกษาเจาะลึกลงไป ก็พบว่า “ดาวจร” ทำหน้าที่เสมือนผู้ส่งสารในจักรวาล กระซิบบอกความลับของการเปลี่ยนแปลงและโอกาสต่างๆ ที่จะเข้ามาในวิถีชีวิต ดวงดาวที่โคจรเคลื่อนที่ไปมาบนท้องฟ้า เกิดการเรียงตัวที่ประณีตสอดรับกับตำแหน่งของดาวต่างๆ ในแผนภูมิดวงชะตากำเนิด ปฏิสัมพันธ์เหล่านี้เป็นการทำงานร่วมกันแบบพลังงานไดนามิก ก่อร่างสร้างวิถีกระแสของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตคนๆ หนึ่ง

มายาประหลาดใจกับอิทธิพลอันทรงพลังของดาวจร เมื่อดาวพฤหัสบดีจร ซึ่งนำพาพลังงานการขยายตัวและความอุดมสมบูรณ์โคจรมาทับกับตำแหน่งอาทิตย์ของบุคคลใด ประตูแห่งโอกาสและโชคลาภก็เปิดออก ขับเคลื่อนชีวิตไปสู่ความสมหวังสมปรารถนา ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่อยู่ในห้วงเวลาที่ดาวเสาร์จ้องมองอย่างดุดัน (เสาร์จรเล็งอาทิตย์เดิม) อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าถึงช่วงเวลาอันท้าทาย บททดสอบที่กระตุ้น ผลักดันให้คนๆ หนึ่งได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่

ทั้งนี้ มายาทราบดีว่า ทิศทางในการดำเนินชีวิตไม่ได้ถูกกำหนดโดย “ดาวจร” แต่เพียงอย่างเดียว เธอตระหนักดีว่ากาลเวลามีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งในตัวมันเอง ดังนั้น เธอจึงหันความสนใจไปศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับ “โปรเกรสชั่นส์” เพิ่มเติม ซึ่งเป็นเทคนิคพยากรณ์อันล้ำค่าในโหราศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปิดเผยเรื่องราวตัวตนที่ไม่เหมือนใครของบุคคลนั้น

มายาค้นพบความลับที่ซ่อนอยู่ของมิติเวลาที่ซ้อนทับกัน และตะลึงพรึงเพริดไปกับสมการเวลาที่บอกว่า “หนึ่งปีบนโลกมนุษย์ = หนึ่งวันบนสวรรค์ชั้นฟ้า” ซึ่งหมายถึง ตำแหน่งของดวงดาวที่โคจรไปมาในแต่ละวันนับตั้งแต่วันที่คุณถือกำเนิด แทนพัฒนาการและความเป็นไปในแต่ละปีของชีวิตคุณ ความลับในเรื่องนี้เผยให้เห็นเบื้องลึกของโลกภายในแต่ละบุคคลและวิวัฒนาการทางจิตใจของบุคคลนั้น ตำแหน่งของดาวดวงต่างๆ ที่ค่อยๆ โคจรเปลี่ยนตำแหน่งไป เปรียบเสมือนการเริงระบำที่มีท่วงท่าลีลาการเต้นอันซับซ้อน ก่อตัวเป็นกระแสชีวิตของแต่ละคนที่ไหลวน ราวกับโชคชะตาของบุคคลที่ถูกกำหนดไว้ !!

ขณะที่ โหรสาวมายาได้สั่งสมความรู้และประสบการณ์จากการตีความแผนภูมิโปรเกรสชั่นส์เป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน เธอได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตของลูกค้าที่มาปรึกษาเธอ เธอพบว่าดวงจันทร์ที่โปรเกรสไปข้างหน้าสะท้อนให้เห็นถึงการขึ้นลงและกระแสการไหลของอารมณ์อย่างไร ซึ่งเธอได้ช่วยลูกค้าของเธอผ่านวัฏจักรแห่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น นอกจากนี้ ดาวพุธ ดาวศุกร์ และดาวอังคารที่โปรเกรสไปข้างหน้า ยังเผยให้เห็นถึงพัฒนาการที่เกิดขึ้นในมิติของการสื่อสาร ความสัมพันธ์ และการกระทำ ตามลำกับ

มายา ให้คำปรึกษาลูกค้าแต่ละรายอย่างละเอียดลออ จนลูกค้าแต่ละรายเกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขา เธอฉายภาพให้เห็นเส้นทางข้างหน้า ช่วยให้ลูกค้าประเมินและสำรวจจุดพีคและจุดต่ำสุดของชีวิตด้วยความชัดเจนและลึกซึ้ง ลูกค้าของเธอรู้สึกสบายใจเมื่อตระหนักว่าประสบการณ์ต่างๆ ของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลที่ยิ่งใหญ่กว่า

อยู่มาวันหนึ่ง มายา ได้พบกับ “เอลีน่า” หญิงสาวที่ชีวิตดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความสับสนคลุมเครือ เอลีน่าไม่สามารถถอดรหัสความหมายที่อยู่เบื้องหลังการต่อสู้ดิ้นรนและพลัง passion ของเธอได้ เธอรู้สึกโหยหาอะไรบางอย่างที่เป็นเสมือนแผนที่ชีวิต คอยนำทางให้เธอ มายาจึงชวนเธอออกเดินทางสำรวจกระแสแห่งชีวิตผ่านเลนส์ของดาวจรและโปรเกรสชั่นส์

สตรีทั้งสองได้ร่วมกันออกเดินทางสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ มายาผูกดวงกำเนิดของเอลีนาขึ้นมาพร้อมกับทำการวิเคราะห์ดาวจรที่จะเข้ากระทบจุดปัจจัยสำคัญในดวงเดิมของเอลีน่า เธอเห็นการเปลี่ยนแปลงและโอกาสอันเยี่ยมยอดที่กำลังจะมาถึง จากนั้นเธอได้เปิดเผยความลับที่ซ่อนอยู่ในแผนภูมิโปรเกรสชั่นของเอลีน่า พร้อมกับวาดภาพอันชัดเจนของพัฒนาการภายในของเอเลน่ารวมทั้งบททดสอบที่รอเธออยู่

เมื่อชีวิตของเอลีน่าเกิดปรากฏการณ์ที่หมุนไปตามจังหวะของดาวจรกับโปรเกรสชั่นส์ เธอจึงเริ่มมองเห็นชีวิตของเธอด้วยความชัดเจนใหม่อีกครั้ง ความท้าทาย รวมทั้งอุปสรรคต่างๆ ที่เธอต้องเผชิญมีความหมายแตกต่างออกไปจากเดิม เมื่อเธอเข้าใจเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ เมื่อชีวิตของเธอเดินมาถึงทางแยก แต่ละแยกจะมีป้ายบอกทาง นำเธอไปสู่เส้นทางชีวิตที่แท้จริงของเธอ ไฟภายในตัวเธอถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง

วันเวลาผ่านไป เอลีน่ามีความมั่นใจในการดำเนินชีวิตมากขึ้นกว่าแต่ก่อน . . มาก เธอเห็นความเชื่อมโยงระหว่างการเริงระบำของจักรวาลกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านชีวิตของเธอเอง โดยตระหนักว่าเธอเป็นส่วนสำคัญของการออกแบบอันวิจิตรพิสดารที่ยิ่งใหญ่ของจักรวาล

ด้วยแรงบันดาลใจที่ส่งอิทธิพลจากดาวจร เอลีน่าตัดสินใจทำตามความปรารถนาของเธอในการช่วยเหลือผู้อื่น เธอเดินตามรอยมายากลายเป็นนักโหราศาสตร์ โหรสาวทั้งสองร่วมกันนำทางเพื่อนมนุษย์ที่กำลังประสบกับปัญหาต่างๆ นานา มากมายนับไม่ถ้วน ช่วยให้คนกลุ่มนี้เห็นความมหัศจรรย์ของการหมุนวน รับรู้กระแสการไหลเวียนของชีวิตผ่านจังหวะการหมุนวนของดาวจรและโปรเกรสชั่นส์

ดังนี้แล้ว ภูมิปัญญา ความรู้ในเรื่อง “ดาวจรกับโปรเกรสชั่นส์” จึงเปรียบเสมือนกุญแจไขความลับให้ทุกคนได้ล่วงรู้ว่า เราท่านทั้งหลายล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวงซิมโฟนีแห่งจักรวาลอันกว้างใหญ่ ผ่านการเริงระบำของดวงดาวและกาลเวลา ท่านผู้อ่านทั้งหลายที่อ่านมาถึงตรงนี้. . .หากสนใจและพร้อมที่จะศึกษาเรียนรู้เทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องมืออันทรงพลังทั้งสองนี้ โปรดติดตามข้อมูลอัพเดตคอร์สเรียนออนไลน์ได้ที่ www.siderealastro.com

แล้วพบกันในคอร์สนะครับ !!